หากเพื่อนๆ ชื่นชอบหนังประเภทที่หลังจากลุกจากเก้าอี้และเดินออกจากโรงหนังมาแล้ว ยังมีคำถาม ข้อสงสัย หรืออะไรให้ขบคิดถึงหนังเรื่องนั้น หลายชั่วโมงหรือเป็นวัน บางครั้งนานเป็นสัปดาห์ ซึ่งหนังประเภทนี้มักจะมีมาไม่กี่เรื่องในแต่ละปี บางปีก็ไม่มี แต่ปีนี้ Prometheusก็ถือว่าเข้าข่ายนั้นเต็มๆ และเพื่อนๆ น่าจะชอบหนังเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย
ต้องบอกก่อนว่า บทความนี้ผมจะไม่ขอพูดถึง Prometheus ในแง่ของการวิจารณ์คุณภาพของหนังหรือการแสดงของนักแสดง หรือแง่มุมใดๆ ที่จะทำให้บทความนี้กลายเป็นบทวิจารณ์ (เพราะเรามีบล็อก Review อยู่แล้ว) แต่จะขอพูดถึงเนื้อเรื่อง ความเชื่อมโยงของหนังกับหนังAlien และพูดถึงทฤษฎีส่วนตัวของผมในแต่ละคำถาม ซึ่งผมขอเชิญชวนให้เพื่อนๆ ที่ได้ชมหนังเรื่องนี้มาแล้ว ได้พูดคุยในส่วนของคอมเมนต์ด้านล่างตามอัธยาศัยครับ
และแน่นอน บทความนี้สปอยล์เนื้อหาของหนัง ดังนั้นใครที่ยังไม่ได้ดู และวางแผนจะไปดู ปิดแท็บหรือเบราเซอร์นี้เสีย ไปดูหนังก่อน แล้วค่อยกลับมาอ่านดีกว่า เพราะหนังแบบนี้ ยิ่งรู้น้อยยิ่งสนุกครับ
อัพเดต: เนื่องจากนิตยสาร T3 เพิ่งจะมีการสัมภาษณ์ผู้กำกับ ริดลีย์ สก็อตต์ และผู้เขียนบท เดม่อน ลินเดอลอฟ ซึ่งมีการตอบคำถามบางข้อที่ผมจะพูดถึงในบทความนี้ ผมจึงรู้สึกว่าต้องมาอัพเดตให้ได้อ่านกันเพิ่มเติมครับ
คำที่จะใช้ในบทความ อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ในอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับ Prometheus และ Alien
Engineer – ผู้สร้าง หรือสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่พบว่าเป็นบรรพบุรุษ หรือผู้สร้างของมนุษย์ บางครั้งถูกเรียกว่า Space Jockey
LV-223 – รหัสดาวเคราะห์ที่เนื้อเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในหนัง
Body Hugger – เอเลี่ยนที่เกิดจากท้อง เอลิซาเบ็ธ ชอว์ หลังจากมีเพศสัมพันธ์กับ ฮอลโลเวย์
Xeno - Xenomorph เอเลี่ยนที่ปรากฎตัวครั้งแรกในหนังเรื่อง Alien ตัวสีดำๆ หัวยาวๆ
1. ฉากของ ENGINEER บนดาวเคราะห์ปริศนาในต้นเรื่องหมายความว่า?
ก่อนจะเข้าถึงคำถามนั้น คงต้องกลับมาคิดก่อนว่า ฉากต้นเรื่องนั้น คือโลกของเราในอดีตหรือเปล่า หรือจะเป็นดาว LV-223 (ดาวที่เรื่องราวเกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้) ไม่ก็อาจจะเป็นดาวเคราะห์ดวงไหนก็ได้ ซึ่งน่าจะเป็นโลกของเรา เพราะมันจะอธิบายว่าพวกเขาคือบรรพบุรุษของมนุษย์
เมื่อยานอวกาศขนาดยักษ์รูปทรงวงรีเคลื่อนตัวออกจากโลกไป ดูท่าทางเขาจะสงบมากและเหมือนเป็นสิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้แล้ว ทำให้ผมเชื่อว่า Engineer คนที่เราเห็นในหนังกำลังเสียสละชีวิตตัวเอง โดยการทำลายตัวเอง ร่างกายของเขาถูกสลายลงภายในเวลาไม่กี่นาทีจนเหลือเพียงระดับ DNA ที่ได้วิวัฒนาการและกลายมาเป็นมนุษย์ในเวลาต่อมา
แต่สิ่งที่ยังเป็นปริศนาในข้อนี้ก็คือ พวกเขาสร้างมนุษย์ขึ้นมาเพื่ออะไร เพื่อการทดลองอะไรสักอย่างหรือเปล่า และถ้ารวมข้อมูลอื่นๆ จากในหนัง ที่ อลิซาเบ็ธ ชอว์ และฮอลโลเวย์ ค้นพบภาพตามแหล่งโบราณคดีทั่วโลก จะเห็นว่าอารยธรรมต่างๆ ของมนุษย์ในอดีต ต่างเคยพบกับ Engineer และ Engineer ยังชี้ไปที่แผนที่ดวงดาวอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ ทำให้ผมเชื่อว่า หลังจากพวกเขาสร้างมนุษย์ขึ้นมาในตอนแรกแล้ว พวกเขาก็ยังแวะมาเยี่ยมเยือนโลกอยู่หลายครั้ง หรืออาจจะอยู่ระยะยาว เพราะแต่ละอารยธรรมในอดีตที่หนังพูดถึง “ห่างกันเป็นศตวรรษและไม่มีทางเกี่ยวข้องหรือติดต่อกันได้”
ซึ่งก็นำมาอีกคำถามหนึ่ง ในเมื่อพวกเขาสร้างเรา และอารยธรรมมนุษย์ในอดีตกาลต่างบูชาพวกเขา ทำไมอยู่ๆ พวกเขาจึงอยากทำลายมนุษย์ขึ้นมา ส่วนนี้ผมจะขอพูดถึงในข้อต่อไป
อัพเดต: ในบทสัมภาษณ์ของ T3 ผู้กำกับได้เปิดเผยว่า คนที่อยู่ในต้นเรื่อง (ก็คือ Engineer ในภาพบน) ทำสิ่งที่เปรียบได้กับ “บริจาค” ตนเอง เป็นการบอกว่าฉากที่เห็นนั้น เป็นโลกสมัยดึกดำบรรพ์ ที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ อยู่เลย แต่ Engineer คนนั้นเสียสละตัวเองเพื่อให้ DNA ของเขาลงไปอยู่ในน้ำ ซึ่งจะสร้างชีวิตบนโลกของเราในอนาคต รวมถึงมนุษย์
2. มนุษย์ผิดตรงไหน ทำไมต้องมาทำลายพวกเรา?
เมื่อนำข้อมูลที่ผมพูดถึงในข้อหนึ่งมาสมทบ ทำให้เชื่อได้ว่า Engineer คือที่มาของมนุษย์ มนุษย์เราวิวัฒนาการมาจากพวกเขา และในอดีตมีการพบปะกันหลายครั้ง ดูจากหลักฐานโบราณคดี และลูกเรือ Prometheus ก็ได้ตรวจสอบ DNA จากหัว Engineer คนหนึ่งเปรียบเทียบกับมนุษย์แล้ว ปรากฎว่า DNA ตรงกันจริง แต่ทำไมพวกเขาถึงจะส่ง “อาวุธ” มายังโลกล่ะ
เราสรุปว่าพวกเขาอยากจะทำลายมนุษย์ได้ ก็เพราะลูกเรือพบว่า Engineer วางแผนจะส่งยานอวกาศรูปทรงคล้ายโดนัทหลายลำบรรทุกของเหลวสีดำที่สามารถทำให้เหยื่อ ซึ่งก็คือมนุษย์โลกติดเชื้อ และกลายเป็นตัวประหลาด บ้าคลั่ง ฆ่าผู้อื่น เหมือนที่ลูกเรือสองคนโดนเข้าไป
นอกจากนี้ สังเกตว่า Engineer ที่มีชีวิตรอดในยานคนนั้น เมื่อเขาตื่นขึ้นมาหลังจากสภาวะหลับไหลกว่า 2,000 ปี พอเขาเริ่มรู้ตัวว่านี่คือมนุษย์ สิ่งมีชีวิตที่พวกเขาสร้างขึ้นจากดาวเคราะห์ที่พวกเขาวางแผนจะไปทำลาย เขาไม่ลังเล และเริ่มทำร้ายมนุษย์ทันที ราวกับว่าการฆ่าล้างมนุษย์เป็นภารกิจสำคัญมาก
สร้างมนุษย์แล้วทำไมถึงเปลี่ยนใจอยากฆ่าล้างมนุษย์?
ทฤษฎีบนอินเตอร์เน็ตตอนนี้ก็มีตั้งแต่ Engineer เริ่มรู้สึกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์เริ่มก้าวร้าว ทำลายกันเอง ผิดจุดประสงค์ของพวกเขา จึงต้องทำลายเสีย
บางทฤษฏีถึงกับพูดถึงเรื่องศาสนา ว่าหลังจากพวกเขาไม่ได้กลับมาโลกมนุษย์สักพัก (เพราะไม่มีหลักฐานโบราณคดีอื่นๆ หลังจากนั้น) มนุษย์ก็หันไปนับถือบูชาศาสนาของตัวเอง ซึ่งพวกเขาต้องการให้มนุษย์นับถือพวกเขาเองมากกว่า ซึ่งก็กลับไปสนับสนุนภาพผนังถ้ำ ฯลฯ อีก
ส่วนตัวผมอยากจะโยงเรื่องนี้เข้ากับชื่อของหนังเอง Prometheus หรือไททันโพรมีธีอุส น่าจะมีความหมายมากกว่าแค่ชื่อของยานอวกาศในหนัง เพราะประเด็นนี้ผู้กำกับได้นำมาเล่นในคลิปไวรัลโปรโมทหนังตั้งแต่แรกแล้ว ที่ ปีเตอร์ เวย์แลนด์ วัยหนุ่ม พูดถึงเชิงยกย่องโพรมีธีอุสว่าเขาถูกพวกเทพลงโทษ เพราะขโมยไฟซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีมาให้มนุษย์ ตรงนี้แหละที่ผมเชื่อว่ามันเกี่ยวกับเหตุผลของหนัง Engineer เปรียบเหมือนเหล่าเทพเจ้า พวกเขาถือตัวว่าเป็นผู้ให้กำเนิดเผ่าพันธุ์มนุษย์ จึงมีสิทธิ์จะทำอะไรกับพวกเราก็ได้
พวกเขาสร้างเราขึ้นมาแล้ว แต่เขาอยากให้พวกเราเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่ไม่ค่อยทรงปัญญา และการที่มีมนุษย์อยู่บนโลกมันน่าจะมีผลประโยชน์แก่เหล่า Engineer ทางใดทางหนึ่ง ไม่งั้นพวกเขาจะสร้างเราทำไมแต่แรก แต่พอมนุษย์ก้าวหน้ามากเกินไป จึงต้องกำจัดทิ้ง
ส่วนทฤษฎีเกี่ยวกับศาสนานั้นก็น่าสนใจ เพราะถ้าจำตัวเลขในหนังได้ จะพบว่าเหตุการณ์ที่ทำให้แผนการทำลายล้างมนุษย์ของพวก Engineer ล้มเหลวนั้นเกิดขึ้นเมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว ซึ่งก็ถือว่าใกล้เคียงกับปี 2094 ในหนัง ซึ่งจะเป็นช่วงเดียวกับที่ศาสนาหลักๆ อย่างคริสต์ พุธ เริ่มเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเหตุผลที่ Engineer ถือว่ามนุษย์นับถือพระเจ้าผิดองค์แทนที่จะเป็นพวกเขา จึงตัดสินใจกวาดล้าง อย่าลืมว่า หนังดูจะให้ความสำคัญกับฉาก และบทสนทนาต่างๆ ที่เกี่ยวกับปรัชญาทางศาสนา และไม้กางเขนพอสมควร
แน่นอนว่าคำถามข้อนี้เป็นคำถามหลักของหนัง เพราะตัวละครของชอว์เองก็พูดในตอนท้ายว่า เธออยากจะไปค้นหาคำตอบว่า ทำไมพวกเขาถึงเปลี่ยนใจ สร้างเราแล้วจะกำจัดเราทิ้ง ซึ่งเราคงจะได้คำตอบในภาคต่อ
อัพเดต: จากบทสัมภาษณ์ คำถามข้อนี้อาจจะดูแคบไปตั้งแต่แรก และอาจจะไม่ได้สำคัญที่สุด (แต่ก็อาจจะใช่ ในทางอ้อม) เพราะผู้กำกับและผู้เขียนบท ได้แนะนำว่า การดูหนังเรื่องนี้แล้วออกมาจากโรงฯ คำถามที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็น “ไอ้ของเหลวสีดำ ตกลงมันทำอะไรได้บ้าง?” ริดลีย์ สก็อตต์ บอกว่าสัตว์ประหลาดที่จู่โจมลูกเรือสองคนนั้นจริงๆ แล้วเป็นผลมาจากของเหลวสีดำทำปฏิกิริยากับหนอน ซึ่งมีภาพของหนอนอยู่ในหนังด้วยถ้านึกดีๆ ตอนที่เดวิดเหยียบพื้นดินในห้องโถงนั้น
ผู้เขียนบทยังบอกอีกว่า การคิดว่าของเหลวสีดำเป็น “อาวุธ” นั้นแสดงว่าผู้ชมอาจตัดสินจากที่ตัวละครคิด หรือตัดสินจากผลลัพธ์ที่ดูเลวร้าย จริงๆ แล้วมันอาจจะทำอะไรกับมนุษย์ก็ได้ ถ้าส่งมายังโลกสำเร็จ ไม่ว่าจะทำลาย ปฏิวัติ DNA มนุษย์ หรืออื่นๆ ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของหนังภาคต่อ
3. เกิดอะไร ทำไมแผนการของ ENGINEER ผิดพลาด?
ที่พวกเรารู้ว่าแผนการของเหล่า Engineer ผิดพลาดก็คือ ถ้ามันสำเร็จ มนุษย์คงสูญพันธุ์ไปตั้งแต่ 2,000 ปีก่อนแล้ว
มีศพของ Engineer มากมายนอนตายอยู่ในยาน และในปีระมิดของพวกเขาเอง ลักษณะศพคือมีช่องที่หน้าอก เหมือนมีอะไรเจาะทะลุออกมาจากข้างใน ประกอบกับภาพบันทึก 3 มิติ ของเหล่า Engineer พากันวิ่งหนีเข้าไปในห้องโถงที่มีรูปปั้นหัวขนาดใหญ่
ในวันแรก ลูกเรือพบห้องโถงที่มีรูปปั้นรูปหัวขนาดใหญ่ โดยในห้องนั้นมีภาพด้านหลังที่เหมือนกับเอลี่ยน Xeno ซึ่งน่าจะหมายความว่า Xeno นั้นมีตัวตนมาก่อนแล้ว และ Engineer ก็สกัดและพัฒนาของเหลวสีดำมาจาก Xeno หรือบางที Xeno อาจจะถูก Engineer สร้างขึ้นเองก็ได้ ซึ่งประเด็นนี้คงจะตอบกันไม่ได้ในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม ของเหลวสีดำที่พวกเขาพัฒนาขึ้นมา ก็กลับไปเล่นงานพวกเขาเอง
4. ภาคต่อของ PROMETHEUS
สรุปว่าคำตอบที่เราได้จากหนัง Prometheus เรื่องนี้คือ มนุษย์เดินทางไปยังดาวเคราะห์รหัส LV-223 ด้วยความหวังที่จะพบกับ “ผู้สร้าง” ของเผ่าพันธ์มนุษย์ แต่กลายเป็นว่าดาวเคราะห์ดวงนี้ไม่ใช่บ้านเกิดของพวก Engineer เลย ลูกเรือพิสูจน์โดยเปรียบเทียบ DNA ของมนุษย์กับพวกเขาแล้วปรากฎว่ามนุษย์ “มาจาก” พวกเขาจริงๆ แต่พวกเขาไม่ได้อัธยาศัยดีเหมือนอย่างที่มนุษย์คาดหวังไว้ หนำซ้ำพวกเขายังวางแผนที่จะทำลายล้างมนุษย์โดยส่งสายพันธุ์มฤตยูมายังโลกเพียงแต่แผนการล้มเหลว
แผนการล้มเหลวก็เพราะ Engineer เลือกใช้ดาวเคราะห์ LV-223 เป็นฐานที่สร้างและเพาะพันธุ์ของเหลวสีดำ ที่ดูจะมีผลลัพธ์ประหลาดๆ กับสิ่งมีชีวิตแตกต่างกันไปในแต่ละกรณี และของเหลวสีดำก็กลับไปทำร้ายพวกเขาเอง
ในตอนจบหลัง อลิซาเบ็ธ ชอว์ กับ เดวิด (ที่หัวขาด) เป็นผู้รอดชีวิตเพียงสองคนบนดาว LV-223 แถมยังตัดสินใจ ใช้ยานลำอื่นของพวก Engineer เดินทางตามหาดาวเคราะห์บ้านเกิดของพวกเขา แทนที่จะกลับโลก จุดนี้นี่เองที่ผมนั่งยิ้มในโรงหนัง มันต้องมีภาคต่อแน่ๆ ส่วนเอเลี่ยนที่เกิดจากท้องของชอว์ก็เติบโตอย่างรวดเร็วและคร่าชีวิต Engineer คนสุดท้าย และได้ให้กำเนิดสิ่งที่น่าจะเป็น Xeno รุ่นแรกที่จะกลายไปเป็นตัวที่เราเห็นในหนัง Alien
แต่สิ่งที่ยังเป็นปริศนาน่าจะได้คำตอบในหนังภาคต่อ (ซึ่งสุดท้ายอาจจะเป็นไตรภาคเลยก็ได้ เพราะเลข 3 มันสวยกว่าเลข 2 อยู่แล้วในฮอลลีวูด) ในภาคต่อไปเราน่าจะได้เห็นชอว์กับเดวิด เดินทางไปยังดาวเคราะห์บ้านเกิดของ Engineer ได้สำเร็จ และคงจะค้นพบข้อเท็จจริงที่ไม่คาดฝัน ซึ่งจุดนี้ผมเองก็ยังคิดทฤษฎีไม่ออก
อีกส่วนหนึ่งก็คือ แม้ชอว์จะส่งข้อความไปยังโลกและเตือนไม่ให้มนุษย์ออกเดินทางตามหาลูกเรือ Prometheus แล้ว ด้วยนิสัยของมนุษย์ที่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ยังไงๆ เวย์แลนด์ก็จะต้องส่งยานอีกลำตามไปแน่ และถ้าไปจริง ก็น่าจะพบกับเอเลียนหลายตัวซึ่งเป็นลูกหลานของตัวที่เกิดในท้ายเรื่องนั่นเอง
อัพเดต: ผู้เขียนบทให้สัมภาษณ์ว่า “ปกติแล้วหนังภาคต้นจะช่วยสรุปเนื้อเรื่องให้กับภาคต่อ เช่นเดียวกับที่เรารู้จัก อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ [ใน Star Wars] อย่างสมบูรณ์ สิ่งที่เราคาดหวังกับ Prometheus คือเปิดทางให้กับอีกโลกหนึ่ง ดังนั้นมันไม่ใช่หนังภาคต้น [ของ Alien] แน่นอน หนังเรื่องนี้มีลูกสองคน หนึ่งในนั้นกลายไปเป็น Alien เราหวังว่าลูกอีกหนึ่งคนจะเปิดทางให้กับ[แฟรนไชส์]ใหม่ที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง”
ข้อมูลนี้บอกเป็นนัยยะว่า หนังภาคต่อของ Prometheus ไม่น่าจะโฟกัสไปที่เอเลี่ยน Xeno ในฉากจบแล้ว เพราะผู้ชมไปหาดูต่อในหนัง Alien ได้ แต่น่าจะไปโฟกัสที่ “ของเหลวสีดำ” ว่าตกลงมันคืออะไร มีไว้ทำไม สร้างขึ้นมาทำไม และทำไมต้องส่งไปโลกมนุษย์ จะว่าไปก็คือหนังจะตอบคำถามของ เอลิซาเบ็ธ ชอว์ นั่นแหละ ซึ่งผมจะพูดถึงเพิ่มเติมในคำถามข้อใหม่ข้อที่ 5
เพิ่มเติมข้อ 5. ของเหลวสีดำคืออะไรกันแน่?
ผู้เขียนบทได้บอกไว้ในบทสัมภาษณ์ชัดเจนว่า คำถามที่สำคัญที่สุดของหนังคือ ของเหลวสีดำมันมีไว้ทำอะไรกันแน่ เป็นแค่ “อาวุธ” จริงๆ หรือ ซึ่งถ้ารู้คำตอบข้อนี้ ก็จะตอบคำถามของ เอลิซาเบ็ธ ชอว์ ได้ว่าทำไมพวก Engineer จึงต้องการจะส่งมันไปโลก
เดม่อน ลินเดอลอฟ ผู้เขียนบทบอกว่า ถ้าพิจารณาหนังดีๆ จะเห็นว่า Prometheus จงใจนำเสนอให้เห็นว่าของเหลวสีดำนั้นทำอะไรได้บ้างในกรณีที่แตกต่างกันไป
ของเหลวสีดำ + หนอนแล้วเกิดอะไรขึ้น (กลายเป็นหนอนขนาดยักษ์ที่รัดแขนลูกเรืออย่างทารุณ และพุ่งเข้าปากในที่สุด) แล้วถ้าของเหลวสีดำติดเชื้อทางใบหน้าเกิดอะไรขึ้น (เหยื่อกลายเป็นซอมบี้ พับตัวได้อย่างกับนักกายกรรม และมีความโหดร้ายทารุณ) หรือถ้าหยดใส่น้ำแล้วดื่มจะเกิดอะไรขึ้น รวมถึงกรณีอื่นๆ เช่น มนุษย์เพศหญิงตั้งครรภ์กับคนที่ดื่มของเหลวสีดำมาก่อน
ข้อมูลเหล่านี้อาจจะช่วยเปิดประเด็นให้กว้างขึ้นว่า มันอาจไม่ใช่อาวุธ และยิ่งพิจารณาร่วมกับคำพูดของ เดวิด ในหลายๆ ฉาก เช่น “ก่อนจะสร้าง บางครั้งก็ต้องทำลาย” หรือ “สิ่งที่ยิ่งใหญ่ มีจุดกำเนิดเล็กๆ” ราวกับว่า เดวิด ทำความเข้าใจกับเรื่องทั้งหมดนี้ได้แล้วว่า โอเค ถึงมันจะทำลายมนุษย์ได้จริง แต่มันเป็นเพียงผลข้างเคียงของจุดประสงค์ที่ยิ่งใหญ่กว่า ซึ่งเรายังไม่เข้าใจ
Q & A คำถามที่น่าสนใจอื่นๆ
ทำไมเดวิดจึงแอบนำหลอดปริศนากลับไปที่ยาน และทดลองนำของเหลวสีดำหยดลงในเหล้าของ ฮอลโลเวย์?
ส่วนตัวผมคิดว่า เนื่องจากเดวิดถูกโปรแกรมโดย ปีเตอร์ เวย์แลนด์ เป็นพิเศษให้เขาทำ “ทุกอย่างที่จำเป็น” เพื่อให้ปีเตอร์ได้พบกับ “ผู้สร้าง” หรือ Engineer และถ้าดูดีๆ ในช่วงแรกๆ ของเรื่อง เดวิดเองก็เหมือนผู้ชมที่ยังไม่เข้าใจอะไรหลายๆ อย่างบนดาวเคราะห์ดวงนั้น เขายังไม่รู้ว่าหลอดนั้นมีอะไร และของเหลวสีดำนั้นคืออะไร มันอาจจะเป็นตัวอย่างของ Engineer เองก็ได้ และฮอลโลเวย์ก็ซวยเองที่ไปตอบคำถามว่า เขายอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้พบกับ Engineer เช่นกัน
ทำไมเดวิดถึงรู้ว่ามียานโดนัทอีกหลายลำ?
ง่ายๆ ตอนยานโพรมีธีอุสลงจอด จะเห็นว่ามีพีระมิดหลายลูกเรียงกันอยู่ ซึ่งปีระมิดหลายตัว ก็หมายถึงยานที่จอดอยู่ใต้ดินหลายลำ
มีพีระมิดของ Engineer หลายแห่ง มียานหลายลำ ทำไมแผนการถึงพลาดทั้งหมด?
อันนี้ตอบไม่ได้ อาจจะเป็นข้อผิดพลาดของบทหนัง หรือพวก Engineer อาจจะวางแผนส่งยานแค่ลำเดียวแต่แรก
คลิปที่ควรดูประกอบกับหนัง
1) ปีเตอร์ เวย์แลนด์ กล่าวสุนทรพจน์ในปี 2023 (ซับไทย) คลิปนี้ช่วยให้เราเข้าในตัวละคร ปีเตอร์ เวย์แลนด์ มากขึ้น ว่าความทะเยอทะยานของเขานั้นเป็นแบบไหน มากน้อยแค่ไหน ในคลิปนี้เวย์แลนด์พูดถึง ไททันโพรมีธีอุส และยังได้พูดถึงความคืบหน้าของโครงการพัฒนาหุ่นแอนดรอยด์ที่ “แทบจะแยกไม่ออกว่ามนุษย์หรือหุ่นยนต์” ซึ่งสุดท้ายก็พัฒนามาเป็น เดวิด
2) คลิปแนะนำหุ่นยนต์ เดวิด (ซับไทย) คลิปนี้เป็นการแนะนำเดวิด ล้วนๆ
3) เอลิซาเบ็ธ ชอว์ ส่งข้อความหา ปีเตอร์ เวย์แลนด์ (สรุปภาษาไทย) คลิปนี้น่าจะเกิดขึ้นหลังจากที่ เอลิซาเบ็ธ ชอว์ ค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีแห่งสุดท้ายในต้นเรื่อง ซึ่งเป็นข้อความภาพที่เธอส่งหาปีเตอร์ เวย์แลนด์ เพื่อขอความสนับสนุนให้ส่งเธอไปกับยานอวกาศเพื่อเดินทางไปยังดาวในแผนที่
เครดิต filmzick
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น